ทำอย่างไรเมื่อมีคางสองชั้นแต่ดูดไขมันเหนียงไม่ได้
ว่าไปแล้วการดูดไขมันเหนียงก็ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ไม่ต่างจากการดูดไขมันต้นขาและต้นแขน เนื่องจากจุดนี้เป็นบริเวณที่ลดสัดส่วนด้วยตัวเองได้ยากที่สุด บางคนพอน้ำหนักขึ้นก็มีคางสองชั้น แต่พอออกกำลังกายจนรูปร่างเพรียวบางลงแล้ว ส่วนเกินใต้คางที่ได้มากลับไม่หายไปพร้อมกัน การดูดเหนียงจึงกลายเป็นทางออกในท้ายที่สุดนั่นเอง ไม่ใช่ทุกคนที่ดูดไขมันเหนียงได้ ประเด็นนี้เป็นเหตุมาจากว่า คางสองชั้นที่ทุกคนได้มานั้นอาจไม่ใช่ไขมันเสมอไป บางกรณีเป็นภาวะที่ต่อมน้ำลายโตกว่าปกติ มองแบบผิวเผินก็จะเหมือนว่ามีเหนียงขึ้นมา หรือบางคนมีความผิดปกติของกล้ามเนื้อช่วงใต้คาง มันก็ทำให้ดูคล้ายกับเหนียงได้เหมือนกัน ซึ่งคนในกลุ่มนี้เองที่จะใช้การรักษาด้วยวิธีดูดไขมันเหนียงไม่ได้ แต่ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย แล้วหาทางแก้ที่เหมาะสมให้แทน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่มีโครงสร้างของคางสั้น เมื่ออายุมากขึ้น ทั้งผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางก็เสื่อมสภาพลง หากเจ้าเนื้อสักหน่อยก็ดูเหมือนคางสองชั้นได้เลย แบบนี้ก็ไม่เหมาะกับการดูดเหนียงเช่นกัน แต่ใช้วิธีเสริมคางหรือปรับรูปหน้าแบบอื่นจะดีกว่า ทางเลือกในการตกแต่งใต้คางเมื่อไม่ต้องการดูดไขมันเหนียง ความจริงแล้วเรามีทางเลือกในการปรับรูปคางให้สวยดังใจได้ค่อนข้างมาก อยู่ที่ว่าเราจะมีระยะเวลาในการดูแลตัวเอง งบประมาณ และการยอมรับกับความยุ่งยากระหว่างการรักษามากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างของทางเลือกที่ว่านี้ก็คือ การฉีดเมโสแทนดูดเหนียง ซึ่งก็ช่วยลดเหนียงได้เช่นกัน เพียงแต่อาจจะไม่เห็นผลชัดเท่ากับการดูดไขมันเหนียงออกไป และพอผ่านไปช่วงหนึ่งก็ต้องมาฉีดเพิ่มอีก หรือจะเป็นการใช้เลเซอร์ยกกระชับผิว ข้อดีคือไม่เจ็บตัวเลย ไม่มีบาดแผลให้เห็น แต่มันช่วยได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น และอาจยกกระชับไม่ได้มากอย่างที่เราต้องการ เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าการลดเหนียงแบบไหนดีสุด ชั่วโมงนี้ก็ยังต้องยกให้การดูดไขมันเหนียง แต่หากเรามีข้อจำกัดที่ทำไม่ได้ หรือยังไม่พร้อมจะทำ ก็ต้องเลี่ยงไปใช้ทางเลือกอื่นแทน การรักษาด้วยการดูดไขมัน เป็นการทำลายเซลล์ไขมันให้ตายไปเลย ไม่เหมือนกับการลดไขมันด้วยวิธีอื่น ๆ ดังนั้นไขมันจะไม่กลับมาอีกแน่นอน อย่างไรก็ตามไขมันบริเวณที่ดูดไปอาจจะกลับมาได้บ้าง …