Tag: <span>ประกันชีวิต</span>

ประกันชีวิตที่ควบการลงทุน รูปแบบใหม่ของประกันชีวิต

หากพูดถึง ประกันชีวิต รูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจ ก็คงไม่พ้น ประกันชีวิตควบการลงทุนที่สามารถมอบ ความคุ้มครองทั้งชีวิตและการลงทุนในกองทุนรวมให้กับคุณในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งจะไม่มีการรับประกันมูลค่ากรมธรรม์ เนื่องจากมูลค่ากรมธรรม์นั้นจะขึ้นอยู่กับมูลค่าของหน่วยลงทุน โดยมูลค่าอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงตามผลประกอบการของกองทุนรวมส่วนข้อแตกต่างของประกันชีวิตที่ควบการลงทุนจะแตกต่างกับประกันแบบทั่วไปยังไงนั้น ไปดูกันเลย ข้อแตกต่างของประกันชีวิตควบการลงทุนกับประกันทั่วไป 1.เบี้ยประกันภัย ประกันชีวิตควบการลงทุนจะเลือกจำนวนเบี้ยประกันภัยที่ต้องการชำระเองได้ และยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่ม/ลด หรือเลือกพักการชำระเบี้ยฯ (Premium Holiday) ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ซึ่งประกันทั่วไปนั้นบริษัทจะกำหนดเบี้ยประกันภัยไว้และขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกัน 2. ผลตอบแทน ประกันชีวิตควบการลงทุน ผลตอบแทนเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุน ซึ่งอาจจะกำไรหรือขาดทุนก็ได้ 3.การขอรับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ ประกันชีวิตควบการลงทุนจะสามารถรับผลประโยชน์จากมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ได้เพียงบางส่วน ซึ่งเมื่อรับแล้วแต่เรายังจะได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ที่คงเหลือเพียงพอในการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายใต้กรมธรรม์ ซึ่งจะแตกต่างกับประกันทั่วไปที่จะขอรับได้ ก็ต่อเมื่อเวนคืนกรมธรรม์ หรือความคุ้มครองสิ้นสุดลง 4.การลดหย่อนภาษี ประกันชีวิตควบการลงทุน สามารถลดหย่อนภาษีได้เท่ากันกับประกันโดยทั่วไปแต่ประกันชีวิตควบการลงทุน จะลดหย่อนเฉพาะในส่วนของการประกันชีวิต โดย ไม่รวมส่วนการลงทุน)โดยจะลดหย่อน ได้ไม่เกิน 100,000 บาท ถือได้ว่า ประกันชีวิตควบการลงทุน Unit Linked นั้นมีความน่าสนใจอยู่ไม่ใช้น้อย เพราะประกันนี้เป็นมากกว่าการคุ้มครองชีวิตแต่ได้ลงทุนอีกด้วย …

จะทำอย่างไรหากไม่อยากให้เป็นภาระลูกหลานเมื่อถึงวัยเกษียณ

หลายต่อลหายคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณและกำลังวางแผนการใช้ชีวิตในวัยเกษียณอยู่ แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระของลูกหลายไม่ว่าเรื่องใดๆ วันนี้เราขอเอาใจช่วยกับบุคคลเหล่านั้นด้วยการนำเคล็ดลับในการก้าวเข้าสู้ในวัยเกษียณอย่างไรไม่ให้เป็นภาระกับลูกหลาน หากพร้อมแล้วก็ไปดูพร้อมกันเลย ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ลูกหลานเป็นกังวลเมี่อตัวคุณถึงวัยเกษียณ ต้องรู้จักการดูแลตัวเองให้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยจากโรคร้ายต่างๆ อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น หรือแม้แต่โรคประจำตัวของตัวคุณเอง ดังนั้นการดูแลสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกหลานสบายใจ โดยคุณสามารภมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยต่างๆ เช่น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วนอยู่เสมอ หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียง ทานยาให้ครบตามกำหนด และวิธีดูแลสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่นี้คุณก็จะไม่สร้างความกังวลใจให้กับลูกหลานแล้ว จัดการบริหารค่าใช้จ่ายให้เป็นอย่างดี หลายคนอาจจะคิดว่าพอถึงวัยเกษียณก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่อาจจะไม่จริงเสมอไป เพราะในบางทีเรื่องการจัดการบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในยามเกษียณเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ทำให้เดือดร้อนกับลูกหลาน เพราะหากในกรณีที่เราจัดการบริหารออกมาไม่ดีทำให้ไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณก็อาจจะทำให้ต้องสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกหลาน หรือหากเรามีทรัพย์สินมากจนเกินไป และไม่มีการจัดการที่ดีก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้และทำให้ลูกหลานเกิดความกังวลใจอีกด้วย ดังนั้นควรวางแผนจัดการกับค่าใช้จ่ายและทรัพย์สินให้ดีก่อนที่จะถึงวัยเกษียณ มีทัศนคติที่ดีและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อถึงวัยเกษียณลูกหลานหลายคนอาจจะกังวลว่าพ่อแม่ของตนเองจะมีอาการเครียด วิตกกังวลที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเก่า ดังนั้นเพื่อช่วยให้ลูกหลานเปลี่ยนความคิดในมุมนั้นเราต้องสร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยการมองโลกในแง่ดี ไม่คิดลบกับชีวิตในวัยเกษียณ ทำความเข้าใจกับชีวิต เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกหลานสบายใจขึ้นแล้ว ยังช่วยให่ร่างกายไม่เกิดอาการเครียดอันเป็นสาเหตุที่ก่อโรคร้ายต่างๆ นั่นเอง โดยเรื่องราวทั้งหมดที่นำมาฝากกันในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวางแผนในการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ หากอยากให้ชีวิตในวัยเกษียณออกมาดีไม่เป็นภาระแก่ลูกหลานแต่ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ลองปรึกษาผู้ช่วยอย่าง คิง ไว ประกันชีวิต ที่ช่วยให้คุณจัดการกับความเสี่ยงโรคร้ายแรงต่างๆ บริการจัดการการเงินของคุณให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเสริมสร้างกำลังใจดีๆ ในการใช้ชีวิต ด้วยประกันสุขภาพพร้อมประกันชีวิต ฟินชัวรันส์ …

ก่อนทำประกันชีวิตออมทรัพย์ ต้องรู้จักข้อดีข้อเสียให้ดีเสียก่อน

ประกันออมทรัพย์อาจเป็นประกันอีกรูปแบบหนึ่งที่คนนิยมทำ เนื่องจากจะเป็นประกันในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่เป็นประกันชีวิต ที่บริษัทจะเลือกจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้เอาประกันภัยเมื่ออยู่ครบกำหนดสัญญา ให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อมีการเสียชีวิตลง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นั้น จะต้องรู้จักรายละเอียดให้ดีเสียก่อน ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์คืออะไร ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ เป็นการผสมของการคุ้มครองระหว่างชีวิตและการออมทรัพย์ ส่วนของการออมทรัพย์คือ ส่วนที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับคืนเมื่อถึงสัญญากำหนด ซึ่งเราจะต้องจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกันในทุกๆเดือนหรือทุกๆปี โดยห้ามยกเลิกก่อนที่จะยกเลิกสัญญา โดยเฉพาะถ้าเป็นการยกเลิกในปีแรกของการทำประกันชีวิต ผู้เอาประกันนั้นจะไม่ได้รับเงินที่จ่ายไปคืนเลยแม้แต่นิดเดียว จะเป็นการออมเงินในรูปแบบของการประกันชีวิต แบบระยะสั้น กลาง และระยะยาว โดยมีอายุตั้งแต่ 3-5 ปี หรือไปจนถึง 25-30 ปีเลยทีเดียว ข้อดีของประกันชีวิตแบบออมทรัพย์คืออะไร สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการออมเงินเพื่อไว้ใช้ยาวชรา หรือสะสมไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษา การเงินฉุกเฉินให้กับครอบครัวหรือคนที่คุณรักได้ โดยการออมเงินในลักษณะนี้จะไม่สามารถถอนเงินออกเหมือนการฝากประจำได้ แต่ถ้าหากต้องการที่จะเวนคืนกรมธรรม์ สามารถทำได้แต่จะถูกหักค่าธรรมเนียมในการเวนคืนจำนวนหนึ่งได้ และจะสามารถเป็นประโยชน์หากต้องการทำการออมทรัพย์ระยะยาว ข้อเสียของประกันชีวิตแบบออมทรัพย์คืออะไร การออมทรัพย์ในลักษณะของประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นั้น เป็นการออมที่มีทุนประกันไม่ค่อยสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการออมทรัพย์หรือการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ การออมแบบนี้จึงไม่เหมาะสมสำหรับการทำกำไรหรือต้องการผลตอบแทนที่มากกว่า ทั้งยังไม่สามารถนำเงินออกก่อนได้ก่อนกำหนด ยามกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะแตกต่างกับการฝากประจำกับธนาคารที่เราสามารถนำเงินออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งที่นำเสนอนี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ได้ไม่มากก็น้อย แต่ก่อนที่จะตกลงทำนั้นก็ควรที่จะศึกษาหาผลประโยชน์รวมถึงสิทธิที่เราจะได้ให้ดีก่อนที่จะตกลงทำทันที เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของตัวเองมากที่สุด เลือกประกันชีวิตออมทรัพย์ที่มีเบี้ยประกันในราคาที่เราสามารถจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการส่งเบี้ยประกันที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียกรมธรรม์ไป รวมถึงเสียค่าเบี้ยที่ควรจะได้ตอบแทนเมื่อครบสัญญา หากท่านกำลังสนใจในประกันชีวิต …

แนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต

หลายคนได้ศึกษาการซื้อกรมธรรม์ชีวิตกันมาบ้างแล้ว ทราบหมดแล้วว่าการซื้อกรมธรรม์ชีวิตนั้นคล้ายคลึงกับการเก็บเงินออม ซึ่งเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งของสัญญาประกันชีวิตก็สามารถถอนเงินก้อนออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือเป็นทุนในการทำธุรกิจต่อไปได้หรืออีกบางประเภทที่คุ้มครองยาวไปจนถึงผู้ซื้อกรมธรรม์เสียชีวิตเลย การชำระเบี้ยประกันในหลายบริษัทก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เช่น บริษัท คิง ไว ประกันชีวิต เป็นต้น ทว่าหลายคนยังไม่ทราบถ้าต้องการซื้อกรมธรรม์ชีวิตควรเริ่มจากขั้นตอนใด…? ในบทความนี้จึงได้รวบรวม 5 ขั้นตอนการซื้อประกันชีวิต ดังนี้ ทราบความต้องการ อันดับแรกเลยประกันชีวิตมีหลายประเภทมากมาย ดังนั้นผู้ซื้อกรมธรรม์จำเป็นต้องเข้าใจตนเองก่อนว่าต้องการประกันภัยชีวิตในรูปแบบใด…? โดยจะใช้เรื่องของเงินทองและสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณานั้นเอง เบี้ยประกันจ่ายไหว หลายคนซื้อกรมธรรม์ชีวิตมักจะไม่ค่อยศึกษาการชำระเบี้ยประกันชอบก็ซื้อกรมธรรม์ แต่ไม่คำนวณเงินในกระเป๋าส่งผลให้เมื่อถึงวันชำระเบี้ยประกันเงินไม่พอจ่ายและสัญญาถูกยกเลิกเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นควรเลือกประกันชีวิตที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้สบาย ๆ นั้นเอง เปรียบเทียบประเภทของประกัน โดยบริษัทประกันมีมากมาย ดังนั้นจึงสามารถนำเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่ผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตสามารถนำมาเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าในราคาที่จ่ายไปได้ ศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ สำคัญมาก ๆ หากผู้ซื้อกรมธรรม์ยอมรับเงื่อนไขของบบริษัทต่าง ๆ ไม่ได้ มักจะเกิดปัญหาประกันไม่คุ้มครองในเรื่องที่ต้องการได้ โดยไม่ใช่ความผิดของทางประกัน ทว่าเป็นความผิดของผู้ซื้อกรมธรรม์เองไม่ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน ภาษี การซื้อประกันชีวิตจะมีภาษีรวมไปในเบี้ยประกันที่ต้องชำระ ดังนั้นควรรู้อัตราภาษีให้ละเอียดรวมไปถึงบางบริษัทประกันที่เปิดให้นำใบเสร็จชำระเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ การซื้อกรมธรรม์ชีวิตไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรือสิ้นเปลื้องเงินโดยเปล่าประโยชน์ หากทุกคนศึกษารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และเข้าใจในจุดมุ่งหมายของการซื้อประกันชีวิตที่แท้จริง

ประกันชีวิตกับการลดหย่อนภาษี

ประกันชีวิต หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบการลงทุนในระยะยาวที่มีความเสี่ยงต่ำ และในขณะเดียวกันก็มีสภาพคล่องที่ต่ำด้วยเช่นเดียวกัน ในการประกันชีวิตสิ่งที่ได้จะเป็นความคุ้มครองตามสัญญาในกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันชีวิตจะไม่สามารถนำเงินที่เป็นผลตอบแทนออกมาใช้ได้ก่อนครบกำหนดสัญญาได้ หรือถ้าได้ก็ต้องมีการยกเลิกสัญญาไปเลย และผลของสัญญาก็จะสิ้นสุดไปด้วย แต่สิ่งที่จะตามมาจากการทำประกันชีวิตก็คือ การได้รับสิทธิในการนำค่าเบี้ยประกันที่เราชำระไปในแต่ละเดือนมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้นั้นเอง แต่คำถามก็คือ เราใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีไปถูกต้องหรือไม่ โดยในวันนี้เราจะบอกเล่าถึงการลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิตมาฝากกันครับ ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไร 1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป ที่มีกำหนดอายุสัญญาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิตตลอดชีพ ประกันออมทรัพย์ โดยหลักการนี้จะต้องเข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร คือ ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขอีกว่า หากมีการจ่ายเงินหรือผลประโยชน์คืนจะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมที่จ่ายไปในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่หนึ่ง ลดหย่อน 10,000 บาท แรกสามารถใช้ร่วมกับสิทธิส่วนตัว ส่วนที่สอง คือส่วนที่เกิน 10,000 บาท สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ในเงินได้พึงประเมินก่อนหักค่าใช้จ่าย แต่ต้องไม่เกิน 90,000 บาท 2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นแบบประกันที่จะจ่ายคืนผลประโยชน์ให้เป็นรายงวด งวดละเท่าๆกัน …

เรื่องที่ต้อง “เสี่ยง” หากคุณไม่ทำประกันชีวิต

เราทุกคนต่างก็มีรายจ่ายที่จะต้องจ่ายในแต่ละวัน ซึ่งการทำประกันชีวิต หลายๆคนมองว่ามันเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในชีวิต แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า หากท่านไม่ทำประกันชีวิต สิ่งที่ท่านเสี่ยงที่จะเจอ คืออะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ ค่ารักษาพยาบาล ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณไม่สามารถเลี่ยงเรื่องการเจ็บป่วยได้ และคุณไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าคุณจะป่วยเมื่อไหร่ ซึ่งหากคุณซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันพวกนี้จะคุ้มครองค่ารักษาตามวงเงินที่คุณได้ซื้อไว้ ทำให้คุณไม่ต้องนำเงินออมออกมาใช้เพื่อการรักษาจนหมดตัว ค่าผ่าตัด เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ และค่าผ่าตัดถือเป็นการใช้เงินก้อนใหญ่ การที่คุณมีประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการผ่าตัด จะทำให้คุณสบายใจมากขึ้น ค่ารักษาโรคที่เป็นเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง เบาหวาน ความดัน ไตวาย ล้วนแล้วต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกครั้งที่ไปหาหมอก็ต้องจ่ายเงิน ซึ่งนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักมาก บางคนถึงขั้นต้องหยุดการรักษาเพราะไม่มีเงินมาจ่ายในจุดนี้ แต่หากคุณมีประกันชิวิต หรือประกันสุขภาพ คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อีก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหลังจากได้เกษียณไปแล้ว เมื่อคุณเกษียณแล้วคุณก็ไม่สามารถที่จะทำงานหรือหารายได้มาได้อีก เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือเงินเก็บที่คุณได้เก็บมา ซึ่งการทำประกันแบบออมทรัพทย์ระยะยาวก็จะช่วยคุณในเรื่องนี้ได้ เงินค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวเมือหัวหน้าครอบครัว หรือผู้ดูแลครอบครัวเกิดการเจ็บป่วย ซึ่งการทำประกันชีวิต หรือสุขภาพ จะมีเงินชดเชยรายวันให้กับคุณ จึงช่วยให้คุณสบายใจได้ว่าในขณะที่คุณป่วย ไม่สามารถหาเงินได้นั้น คุณยังได้รับเงินชดเชยจากประกันมาดูแลครอบครัวของคุณ ดังนั้น จึงมองข้ามไม่ได้เลว่า การทำประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพมีความสำคัญในชีวิตใครหลายๆคน เราควรเลือกพิจารณาเลือกประกันตามความเหมาะสม …